สิวปัญหาที่ใครหลายคนไม่อยากเจอ เนื่องจากเมื่อเป็นแล้วจะทำให้สูญเสียความมั่นใจ ซึ่งสิวมีทั้งสิวผด สิวอุดตันและสิวอักเสบ โดยที่สิวมักมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรมหรือฮอร์โมนและปัจจัยภายนอกที่กระตุ้นให้เกิดสิวและปัญหาผิวมากขึ้น และปัจจัยภายนอกที่จะกระตุ้นให้เกิดสิวคือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การนอนดึก การสูบบุหรี่ เป็นต้น ซึ่งหลายคนอาจเลือกใช้ครีมหรือยาแต้มสิวเพื่อจัดการปัญหาเรื่องสิวได้อย่างตรงจุด แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ โทนเนอร์รักษาสิว ซึ่งโทนเนอร์นี้จะเป็นตัวช่วยในการทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจดและบำรุงผิวให้แข็งแรงและยังสามารถปรับสภาพผิวให้มีความสมดุลมากขึ้น
ทำไมต้องใช้โทนเนอร์รักษาสิว ?
โทนเนอร์ถือเป็นตัวช่วยที่ล้างทำความสะอาดใบหน้าและช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นขึ้น ไม่แห้งตึง ซึ่งการใช้โทนเนอร์นี้ยังเป็นการเตรียมผิวเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงในขั้นตอนต่อไปโดยอาจแตกต่างกันไปตามส่วนผสม ด้วยประสิทธิภาพในการชะล้างและทำความสะอาดนี้เอง จึงทำให้โทนเนอร์ลดสิวช่วยชะล้างปัจจัยต่าง ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดสิวได้เป็นอย่างดี ทั้งความมันส่วนเกินบนใบหน้า เซลล์ผิวหนังเก่า ฝุ่นละออง รวมไปถึงคราบอื่น ๆ ที่คลีนซิงหรือสบู่ล้างหน้าไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ทั้งยังเป็นการบำรุงผิวโดยใช้ส่วนผสมของสารยับยั้งหรือฆ่าเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวอีกด้วย ในการเลือกโทรเนอร์ที่จะทำการรักษาสิวนั้นควรสังเกตในส่วนผสมที่จะช่วยลดสิว มอยเจอร์ไรเซอร์และสารอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง หรืออาจเลือกสูตรที่ได้รับการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้แก้ปัญหาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในส่วนผสมของโทนเนอร์ที่จะช่วยลดสิวนั้นมีทั้ง Glycolic Acid และ Salicylic Acid ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของกรดที่มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบของสิวได้ดี และยังเข้าตรงสลายสิวอุดตันและช่วยผลัดเซลล์ผิว และยังสามารถช่วยลดรอยกระ ผ้าและจุดด่างดำ ทำให้ใบหน้าดูกระจ่างใสมากขึ้น ในตัวโทนเนอร์นั้นด้วยความที่เป็นกรดอ่อน ๆ จึงทำให้บางคนที่ใช้เกิดการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย ซึ่งหากเป็นผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายสำหรับผู้ที่เป็นสิวควรใช้โทนเนอร์ลดสิวที่มีส่วนผสมของ Lactic Acid ที่มีความอ่อนโยนมากกว่าแทน เพราะสารนี้เป็นสารที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติที่อยู่ในผิวหนังของคนเรา
ปัจจุบันนี้โทนเนอร์ส่วนใหญ่ถูกผลิตออกมาให้มีความอ่อนโยนต่อผิวหน้าหากต้องการใช้สามารถใช้ได้ทุกวัน ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าจะมีอาการแพ้ หากต้องการใช้ให้ได้ผลดี ใบหน้ากระจ่างใสอย่างชัดเจนก็ควรใช้วันละ 2 ครั้งในเวลาเช้าและเย็น หลังจากล้างหน้าแล้ว จากนั้นก็บำรุงผิวหน้าต่อด้วยเซรั่ม ครีมบำรุง ตัวโทนเนอร์จะช่วยให้ครีมเหล่านั้นมีประสิทธิภาพซึมซาบสู่ผิวได้ง่ายขึ้นด้วย เมื่อใช้โทนเนอร์แล้วอาจจะเห็นผลได้ช้าหากต้องการความรวดเร็วในการรักษาสิวนั้นให้หายไวและได้ผลเร็วนั้นคงต้องพึ่งการทำศัลยกรรมที่ปัจจุบันนี้มีคลินิกเกิดขึ้นมากมายดังนั้นการที่จะเลือกคลินิกควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญให้บริการ ซึ่งการรักษาสิวกับทางคลินิกนั้นจะใช้วิธีใดในการรักษาสิวมาดูกัน
การรักษาสิวด้วยเลเซอร์ ทำไง ?
การรักษาสิวของคนเรานั้นส่วนมากมักจะดูแลด้วยตัวเองก่อนหากเป็นไม่มาก โดยอาจจะใช้โทนเนอร์รักษาสิว การใช้ยาแต้มสิวหรืออาจจะรับประทานยาร่วมด้วย แต่การรักษาด้วยตนเองนั้นผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่เป็นอย่างที่คิด อาจจะเห็นผลช้าหรือในกรณีที่มีสิวอุดตันมาเป็นเวลานาน และไม่ตอบสนองต่อการทายาหรือกินยา สิวอุดตันมักโตเป็นสิวอักเสบทำให้ผู้ที่เป็นสิวนั้นเกิดความรำคาญใจ มีตุ่มแดงบนใบหน้า และเมื่อตุ่มแดงสิวหาย มีโอกาสเกิดเป็นรอยสิวและแผลเป็น ดังนั้นการทำเลเซอร์รักษาสิวอุดตันจะเป็นการช่วยป้องกันสิวอักเสบได้ คนที่ต้องการรักษาสิวให้หายเร็ว ๆ ไม่อยากรอผลจากการทายา หรือกินยา ภายใน 1 – 3 เดือนก็จะเห็นผลได้อย่างชัดเจน
การใช้เลเซอร์รักษาสิวอุดตันนั้นจะเป็นการเปิดช่องทางออกของต่อมไขมัน สามารถรักษาสิวอุดตันให้หายได้และยังป้องกันผลข้างเคียงจากสิวเพราะสิวอุดตันได้ หากทิ้งไว้ก็มีโอกาสเกิดสิวอักเสบเม็ดโตและสิวหัวช้าง ซึ่งทำให้เกิดรอยแดงรอยดำจากสิว และ รอยแผลเป็น หลุมสิว ตามมาได้ ดังนั้นการทำเลเซอร์รักษาสิวนั้นจะมีประโยชน์ในการป้องกันไม่ให้เกิดรอยแดงดำ และ แผลเป็นสิวในอนาคต
ในการรักษาสิวด้วยการทำเลเซอร์นั้นส่วนมากมักทำเพียงครั้งเดียว แต่หากมีสิวอุดตันที่มีหัวขนาดกลางถึงเล็กนั้นก็ต้องมาทำเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากครั้งแรกไม่หมดหรือเม็ดสิวที่อุดตันขนาดจิ๋ว เริ่มโตภายใน 2 – 3 อาทิตย์ต่อมา และระยะเวลาในการรักษาสิวด้วยเลเซอร์นั้นจะใช้เวลา 15 – 40 นาที ซึ่งจะขึ้นอยู่กับจำนวนเม็ดสิวด้วย
หลังทำเลเซอร์รักษาสิวควรป้องกันยังไงไม่ให้เกิดสิว ?
ในกรณีที่ผู้เข้าทำการรักษาสิวด้วยเลเซอร์นี้หากเป็นช่วงวัยรุ่นสาเหตุของการเกิดสิวมาจากฮอร์โมน หลังจากที่ได้ทำการรักษาด้วยเลเซอร์สิวไปแล้วควรทายาหรือกินยาป้องกันสิวใหม่ไม่ให้เกิดขึ้นมาอีก หากเป็นไม่มากการทายาป้องกันสิวก็น่าจะพอแต่ถ้าเป็นมากอาจต้องกินยาพร้อมกับทายารักษา และป้องกันสิวควบคู่กันไปด้วย และถ้ายังไม่หาย หรือ ดื้อต่อการรักษาก็แนะนำให้ใช้เลเซอร์ที่ป้องกันการเกิดสิวแทน
การรักษาสิวด้วยโทนเนอร์รักษาสิวนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีความใจเย็นสามารถรอผลการรักษาได้ และก็ยังเหมาะกับผู้ที่มีอาการของสิวที่เป็นไม่มาก แต่หากเป็นมากจนไปถึงขั้นของการเกิดสิวอักเสบนั้นการเข้ารับการรักษาสิวกับทางคลินิกนั้นถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่ผู้เข้ารับบริการควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญให้การดูแล