การที่จะมีใบหน้าที่งดงามสมส่วนนั้นใบหน้าต้องมีความสมดุลและมีหน้าผากที่โค้งมนรับกับรูปหน้าซึ่งจะส่งเสริมให้ใบหน้าดูดีมีสง่าราศี โดยที่แต่ละบุคคลจะมีรูปหน้าผากที่แตกต่างกันออกไป โดยหน้าผากนั้นคือส่วนที่อยู่บนใบหน้าโดยอยู่เหนือคิ้วขึ้นไป หลายคนมีหน้าผากที่กว้าง, หน้าผากแคบ, หน้าผากสูง, หน้าผากแบน, หน้าผากนูน, หน้าผากเถิก ซึ่งล้วนขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ เชื้อชาติ และเพศ สำหรับผู้ที่มีหน้าผากกว้าง หน้าผากแบนไม่มีมิติ ไม่ได้สัดส่วน และไม่มีความสมดุล อาจทำให้บุคคลเหล่านั้นเกิดความกังวลและขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิต ดังนั้นการทำศัลยกรรมหน้าผากกว้างเพื่อให้ได้สัดส่วนนั้น จึงเป็นทางออกและวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
ก่อนทำศัลยกรรมหน้าผากควรรู้อะไร ?
การทำศัลยกรรมหน้าผากนั้นหลายคนทำเพื่อเป็นการเสริมโหงวเฮ้งเพื่อรับโชค หรืออาจทำเพื่อปรับรูปหน้าผากให้ออกมาสวยงามมีความโค้งนูนเพื่อให้รับกับรูปหน้ามากขึ้น ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในการเสริมหน้าผากนั้นสามารถเลือกได้หลากหลายวิธี ก่อนที่จะทำศัลยกรรมเสริมหน้าผากนั้นผู้เข้ารับบริการจะต้องศึกษาหากข้อมูลให้ละเอียดก่อน และวันนี้เราได้นำข้อมูลเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมหน้าผากกว้างมาฝากก่อนที่จะตัดสินใจทำ ซึ่งมีดังนี้
- หน้าผากของผู้เข้ารับบริการมีปัญหามากน้อยแค่ไหน
สำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าผากกว้าง แบนหรือแคบเกินไป การทำศัลยกรรมหน้าผากจะช่วยปรับรูปหน้าโดยรวมให้สวยมีมิติมากขึ้นได้ นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผากได้อีกด้วย
- เสริมหน้าผาก สามารถทำได้ด้วยวิธีใดบ้าง?
การเสริมหน้าผากมีหลากหลายวิธี แต่วิธีที่อยากแนะนำและได้รับความนิยมและมีความปลอดภัยสูง มีวิธีใดบ้างมาดูกัน
- เสริมหน้าผากโดยการฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปบริเวณหน้าผาก ให้ดูดีและนูนสวยได้รูปมากขึ้น และยังช่วย Lift ริ้วรอยบนหน้าผาก ทำให้ผิวเต่งตึงอ่อนวัย วิธีทำได้ง่าย ไม่เจ็บตัว โอกาสบวมช้ำน้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับวิธีและแก้ไขได้ง่าย
- เสริมหน้าผากโดยการฉีดไขมัน
ไขมันที่ฉีดเข้าไปที่หน้าผากนั้นจะมาจากร่างกายของผู้เข้ารับบริการเอง โดยแพทย์จะทำการดูดเอาไขมันส่วนเกินที่ไม่ต้องการในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นไขมันหน้าท้อง ไขมันสะโพก หรือไขมันต้นขา เมื่อดูดออกมาแล้วจะทำการฉีดกลับเข้าไปยังบริเวณหน้าผาก โดยที่ก่อนนำไปฉีดจะนำเอาไขมันมาแยกเซลล์ไขมันแล้วฉีดเข้าไป ซึ่งการฉีดไขมันมีข้อดีคือเป็นเซลล์ไขมันของตัวเอง ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้แต่อย่างใด
- เสริมหน้าผากโดยการผ่าตัดเสริมซิลิโคน
วิธีนี้จะนำซิลิโคนซึ่งมี 2 แบบ คือซิลิโคนสั่งทำ และซิลิโคนแบบสำเร็จรูป มาทำการใส่เข้าไปยังหน้าผากด้วยการผ่าตัดซึ่งการผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยการใส่ซิลิโคนนั้นจะทำให้ผู้เข้ารับบริการมีหน้าผากที่สวย สามารถเลือกความนูนได้เท่าที่ต้องการ คงรูปถาวรและไม่ต้องทำซ้ำ แถมยังปลอดภัยมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี Forehead Endoscopic surgery คือการใช้กล้องขนาดเล็กมาช่วยในการผ่าตัด ทำให้แผลมีขนาดเล็กลง และยังทำให้หลีกเลี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อเส้นเลือดและเส้นประสาทดังกล่าวได้ดีอีกด้วย
- เลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน
การเลือกสถานพยาบาลนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพราะหากเลือกสถานพยาบาลที่ไม่สะอาด เครื่องมือไม่ทันสมัยไร้มาตรฐานจะทำให้มีโอกาสที่จะทำให้ติดเชื้อสูงมากหรืออาจส่งผลกระทบในระยะยาวในการทำศัลยกรรมหน้าผากกว้างได้
- เลือกทำกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญ
ก่อนที่จะเข้ารับบริการผู้เข้ารับบริการควรที่จะเข้าไปปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมก่อนเพื่อที่จะให้แพทย์ทำการวิเคราะห์รูปหน้าประเมินว่าควรแก้ไขลักษณะหน้าผากของผู้เข้ารับบริการด้วยวิธีไหน และก่อนทำหลังทำศัลยกรรมควรมีการเตรียมตัวก่อนทำอย่างไรบ้าง ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการทำและบริการหลังทำ ซึ่งผู้เข้ารับบริการจะต้องสอบถามให้ละเอียด และต้องไม่ลืมที่จะต้องแจ้งประวัติว่ามีปัญหาสุขภาพหรือโรคประจำตัวอะไรบ้าง รวมถึงการแพ้ยาแพ้อาหารหรือการแพ้สารชนิดใดด้วย
ศัลยกรรมหน้าผากเหมาะกับใคร ?
- เหมาะสำหรับคนที่มีหน้าผากกว้างเกินไปหรือแบนเกินไปและยังรวมไปถึงคนที่มีสันจมูกต่ำด้วย
- เหมาะสำหรับคนที่มีหน้าผากไม่เรียบเนียน
- เหมาะสำหรับคนที่มีหน้าผากแคบ ซึ่งจะส่งผลให้รูปหน้าไม่สะดุดตา
- เหมาะสำหรับคนที่เกิดริ้วรอยบริเวณหน้าผากเมื่ออายุมากขึ้น
ก่อนเข้ารับการทำศัลยกรรมหน้าผาก ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าผากอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ผู้เข้ารับบริการควรงดรับประทานยาต้านการอักเสบ เช่นยาแอสไพริน งดสูบบุหรี่ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- ในกรณีที่รับประทานอาหารเสริมจำพวกวิตามินอี น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กระเทียม หัวหมอ และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองอาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติ หรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัดผู้เข้ารับบริการควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน เพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 7-10 วัน
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัดควรสระผมมาก่อนเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ในกรณีที่ผู้เข้ารับบริการเสริมหน้าผากมีโรคประจำตัวเช่นความดันโลหิตสูงต้องควบคุมความดันให้เป็นปกติก่อนที่จะเสริมหน้าผากสัก 2 สัปดาห์
- แนะนำให้ผู้เข้ารับบริการเสริมหน้าผากลางาน 1 สัปดาห์
- ในวันที่ทำการผ่าตัดเสริมหน้าผากผู้เข้ารับบริการควรพาเพื่อนหรือญาติมาด้วย เนื่องจากหลังทำอาจจะมีอาการเวียนศีรษะได้เนื่องจากการเสียเลือด
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัดหากมีโรคประจำตัวควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
- หากเป็นโรคหัวใจก่อนเข้ารับการผ่าตัดควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อน
- หากผู้เข้ารับบริการรับประทานยา Cumadin เพื่อป้องกันภาวะการแข็งตัวของเส้นเลือดดำที่ขาหรือในผู้ที่เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวและหยุดยาก่อนมารับการผ่าตัดเสริมหน้าผาก
หลังศัลยกรรมเสริมหน้าผาก ควรปฏิบัติตัวอย่างไร?
- เพื่อเป็นการลดอาการปวดบวมให้ผู้เข้ารับบริการประคบเย็นบริเวณหน้าผากประมาณ 2 วันแรก แต่หลังจากนั้นให้ทำการประคบอุ่น
- หลังการผ่าตัด 2 วัน ให้ผู้เข้ารับบริการดื่มน้ำมาก ๆ และหากมีอาการปวดให้รับประทานยาแก้ปวดทุก 4 ชั่วโมง
- หลังการผ่าตัดผู้เข้ารับบริการสามารถล้างหน้าสระผมได้ตามปกติ หากแผลเปียกน้ำให้เช็ดให้แห้งแล้วเช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทันที
- เพื่อเป็นการลดอาการบวมที่ใบหน้าและรอบดวงตา ให้ผู้เข้ารับบริการนอนราบไม่ต้องหนุนหมอน
- หลังทำการผ่าตัด 2 สัปดาห์แพทย์จะทำการตัดไหม
- หลังทำการผ่าตัดให้ผู้เข้ารับบริการงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 1 เดือน
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด หากเกิดการแพ้ยาให้รีบพบแพทย์ทันที
- หลังผ่าตัดผู้เข้ารับบริการควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ เป็นเวลาประมาณ 2 – 3 เดือน เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนหน้าผาก เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะทำให้ซิลิโคนผิดรูปทรงได้
- ผู้เข้ารับบริการควรพบแพทย์ตามใบนัด หากมีอาการผิดปกติควรแจ้งแพทย์ให้ทราบทันที
ศัลยกรรมหน้าผากกว้าง ก่อนที่จะเข้ารับบริการผู้เข้ารับบริการจะต้องเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้บริการและต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน สะอาด มีเครื่องมือที่ทันสมัย ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการเข้ารับบริการนั่นเอง