Breast Augmentation แปลว่า การทำศัลยกรรมหน้าอกภาษาอังกฤษ ซึ่งการเสริมหน้าอกสำหรับสาว ๆ ที่มีขนาดหน้าอกเล็ก แล้วมีความต้องการที่จะเพิ่มขนาดหน้าอกของตัวเองให้มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยอาจจะใช้การนวดเพื่อเพิ่มขนาด หรือฟองน้ำยัดเข้าในเสื้อชั้นใน แต่ในยุคนี้ซึ่งเป็นยุคที่มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำสมัยสามารถใช้เทคนิคทางการแพทย์ทำศัลยกรรมเพื่อเพิ่มขนาดหน้าอกได้
การเสริมหน้าอก เป็นการเสริมเพื่อที่จะเพิ่มขนาดให้กับเต้านมโดยให้มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้รูปร่างโดยรวมดูดีมากขึ้น ไม่ว่าจะหน้าอกแบนราบ หน้าอกห่าง หรือเพื่อเป็นการเพิ่มขนาดปรับขนาดของเต้านมหลังจากการมีบุตร และให้นมบุตร หรือเพื่อแก้ไขขนาดรูปทรงหน้าอกที่ผิดปกติ ความแตกต่างของเต้านมทั้งสองข้างให้สวยสมดุลกับรูปร่างมากยิ่งขึ้น
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังวางแผนจะทำศัลยกรรมหน้าอกเหมือนกับคนอื่น ๆ อยู่ละก็ ท่านควรศึกษาและทำความเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมก่อนซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อที่คุณจะได้เตรียมตัวเตรียมใจก่อนเข้ารับการทำศัลยกรรมหน้าอกภาษาอังกฤษ และในวันนี้เราได้รวบรวมข้อควรรู้ก่อนเสริมหน้าอกมาให้ท่านได้ทำการศึกษา ดังนี้
ข้อควรรู้ก่อนคิดที่จะเสริมหน้าอก
- การผ่าตัดเสริมหน้าอกมีหลายแบบด้วยกัน ได้แก่ การผ่าตัดที่ตำแหน่งรักแร้ ใต้ราวนม รอบปานนม และสะดือ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันออกไป อย่างเช่น
- การผ่าตัดที่สะดือข้อดี คือ แผลเล็ก โดยแผลจะอยู่ตรงขอบสะดือ แต่ข้อเสียคือทำได้เฉพาะคนที่เสริมหน้าอกด้วยถุงซิลิโคนน้ำเกลือเท่านั้น เพราะแผลเล็กต้องพับเข้าไป หากใช้ซิลิโคนชนิดอื่น ๆ จะเข้าไม่ได้
- การผ่าตัดที่ใต้ราวนมข้อดี คือ ฟื้นตัวเร็ว บวมน้อย สามารถหยุดเลือดได้ง่าย แต่ข้อเสียคือจะมีแผลเป็นตลอดชีวิต
- การผ่าตัดที่รอบปานนมข้อดี คือ แผลผ่าตัดเข้าถึงเต้านมได้โดยตรง และเจ็บน้อย แต่ข้อเสียคือ มีรอยแผลที่รอบปานนม และอาจมีอาการชาที่หัวนม
- การผ่าตัดที่ตำแหน่งรักแร้ข้อดี คือ แผลผ่าตัดจะซ่อนอยู่ใต้รักแร้ ไม่มีแผลตามร่างกาย คือแต่จะเจ็บประมาณ 1 อาทิตย์
- ศึกษาวัสดุและเลือกรูปทรงหน้าอกที่จะทำให้ดี จะได้ไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนใหม่หรือแก้ไขทีหลัง เพราะปัจจุบันมีวัสดุเสริมหน้าอกมากมายให้สาว ๆ ได้เลือกใส่
- อายุสาว ๆ ที่เหมาะกับการทำศัลยกรรมหน้าอกจะอยู่ในช่วง 20 -22 ปี ซึ่งถือว่าร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว
- ก่อนเข้ารับการทำศัลยกรรมท่านจะต้องงดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมง และต้องหยุดรับประทานยาที่จะมีผลทำให้เลือดออกง่าย เช่น ยาแอสไพริน
- ในวันที่จะผ่าตัดให้เตรียมเสื้อชั้นในแบบเปิดกระดุมด้านหน้าไปด้วย เพราะหลังจากผ่าตัดหรือวันที่ออกจากโรงพยาบาลคุณจะยกแขนใส่เสื้อชั้นในไม่ได้ เนื่องจากจะปวดแผลบริเวณรักแร้มาก
- ท่านจะต้องเตรียมใจไว้เลยว่าหลังทำจะมีอาการเจ็บมาก ๆ ซึ่งเกิดจากผลข้างเคียงหลังผ่าตัด
- หลังทำหน้าอกในช่วงแรก ๆ ท่านไม่ควรใส่เสื้อชั้นในแบบมีโครง ควรใส่แบบที่มีเนื้อผ้ายืดหยุ่นได้ดีและไม่รัดหน้าอกแน่นจนเกินไป
- หลังผ่าตัดท่านจะต้องยอมรับว่าต้องมีแผลเป็นอย่างแน่นอน วิธีดูแลคือท่านสามารถใช้ครีมลดรอยแผลเป็นมาช่วยทาได้ซึ่งอาจจะทำให้แผลเป็นลดลงได้
- ปัจจุบันซิลิโคนที่ใช้เสริมหน้าอกมีมาตรฐานมากขึ้นและมีใบการันตี สามารถมีอายุการใช้งานได้แบบไม่มีหมดอายุ ซึ่งหากไม่มีปัญหาอะไรก็สามารถทิ้งไว้ได้ตลอดชีวิต
- หลังจากทำศัลยกรรมหน้าอกท่านจะต้องทำเอ็มอาร์ไอสแกนเป็นประจำ เพื่อเป็นการตรวจสอบวัสดุที่ใช้เสริมหน้าอกว่ายังมีสภาพดีอยู่หรือไม่
- หลังผ่าตัดต้องนวดหน้าอกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันพังพืดเกาะ วิธีนวดนั้น มี 4 ท่าง่าย ๆ โดยให้ทำวนไปเรื่อย ๆ ประมาณวันละ 5-10 นาที
- เริ่มจากใช้มือทั้งสองข้างดันซิลิโคนเข้ามาตรงกลางหน้าอกให้ชิดกัน ค้างไว้ประมาณ 10 วินาทีแล้วคลายออก
- ต่อด้วยใช้มือดันหน้าอกจากตรงกลางไปด้านข้าง เพื่อดันให้ซิลิโคนออกข้างลำตัว ทำค้างไว้อีกประมาณ 10 วินาทีแล้วคลายออก
- ใช้ฝ่ามือดันซิลิโคนขึ้นข้างบนให้ได้มากที่สุด โดยให้ดันค้างไว้ประมาณ 10 วินาที
- สุดท้ายใช้ฝ่ามือประสานกันแล้วดันซิลิโคนลงด้านล่าง ค้างไว้ 10 วินาที แล้วคลายออก จากนั้นให้วนกลับไปนวดท่าแรกใหม่อีกครั้ง ทำซ้ำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ
บทความแนะนำ ผ่าตัดกระเพาะ จากเว็บไซต์ Rattinan.com
ศัลยกรรมเสริมหน้าอกมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเทศ
- ผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกแบบเสริมซิลิโคน (Silicone Gel Implants)
ซิลิโคนนมนั้นมีทั้งแบบผิวเรียบ/ผิวทราย ทรงกลม/ทรงหยดน้ำ แบบหลังทำต้องนวดและไม่ต้องนวด ทำโดยการผ่าตัดสอดผ่านรักแร้ การผ่าตัดผ่านทางปานนม และการผ่าที่ฐานหน้าอกใต้ราวนม ไหนจะใต้กล้ามเนื้อเหนือกล้ามเนื้ออีกทีซึ่งจะขึ้นอยู่กับแพทย์พิจารณาร่างกายของคนไข้ว่าควรผ่าตัดวิธีไหนเหมาะสมที่สุดกี่ cc ถึงสวยงามและปลอดภัย ซึ่งวิธีนี้จะทิ้งรอยแผลเป็น
- การฉีดสารเติมเต็ม หรือ Filler
เป็นการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดสารจำพวก Hyarulonic acid โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับคนที่อยากเพิ่มขนาดหน้าอกแต่กลัวการผ่าตัด และไม่มีเวลาพักฟื้น หน้าอกจะมีขนาดใหญ่ขึ้นโดยใช้เวลาไม่นานในการเสริม และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เลย
- การฉีดไขมันตนเอง (Fat Grafting)
เป็นการนำไขมันมาจากตัวเราเอง วิธีการนี้ยังไม่เป็นที่รับรองถึงประสิทธิภาพ เนื่องจากต้องมีไขมันมากพอ และต้องฉีดบ่อยครั้งกว่าจะอยู่ตัวหลังฉีดไขมันจะสลายตัวไป 50 เปอร์เซ็นต์ในระหว่างช่วง 6 เดือน ถึง 1 ปี และประมาณ 1-2 ปีก็จะสลายไปหมดเพราะมันคือเนื้อเยื่อของเราเอง
บทสรุป
ศัลยกรรมหน้าอกภาษาอังกฤษ ก่อนที่ท่านจะเข้ารับการใช้บริการท่านจะต้องทำการศึกษาข้อมูลให้ละเอียดไม่ว่าจะเป็นสถานบริการ แพทย์ผู้ให้บริการ หรือแม้กระทั่งสิ่งที่จะเข้าไปอยู่ในร่างกาย ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง และเมื่อทำมาแล้วท่านจะต้องดูแลรักษาสุขภาพให้ดีตามที่แพทย์แนะนำเพื่อที่หน้าอกที่เราเสียเงินไปทำมาจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ